ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะกลายเป็นผู้ประกอบการ นำของจากโลกออฟไลน์สู่โลกออนไลน์โดยที่ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายใดๆ! บริการที่ว่านี้มีชื่อเรียกว่า Google Trader บริการใหม่ล่าสุดจากทาง Google ที่เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการไปเมื่อ 26 มิถุนายน 2555 ที่ผ่านมา กำลังจะทำให้ตลาดออนไลน์ท้องถิ่นมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง!
Google Trader คือ พื้นที่ประกาศขายสินค้าออนไลน์ หรือเว็บไซต์ประกาศขายสินค้า เหมาะสำหรับธุรกิจค้าขายทุกประเภท ไม่ว่าเราจะมีหน้าร้านจริงอยู่หรือไม่ก็ตาม โดยผู้ใช้บริการสามารถเข้ามาลงสินค้าที่ต้องการเสนอขาย หรือค้นหาสินค้าที่ต้องการซื้อได้ง่าย สะดวกต่อการเข้าถึงผ่านทางคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน โดยประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ 5 ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ รองจากประเทศกานา ยูกันดา เคนยาและไนจีเรีย ซึ่ง Google ประเทศไทยเห็นความสำเร็จจากหลายประเทศดังที่กล่าวมาข้างต้น และมีความเชื่อมั่นว่าตลาดร้านค้าบนโลกออนไลน์ในประเทศไทยจะมีโอกาสโตยิ่งขึ้น และได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดี
เพราะเป็นบริการของ Google จึงแน่ใจได้อย่างหนึ่งว่าเข้าถึงคนจำนวนมากได้แทบจะในทันที! และเท่าที่เราลองใช้ดู ก็จัดการเรื่องการนำสินค้าขึ้นได้ง่ายทีเดียว ประกอบกับการที่ลูกค้าสามารถใช้ Google Trader ผ่านคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนโดยตรง การหาลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มจาก Google Trader จึงน่าจะเป็นอีกวิธีที่น่าจะทำเอาไว้ได้เลยไม่เสียเปล่าอย่างแน่นอน
ในระยะนี้ Google Trader สามารถใช้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็จะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายย้อนหลังด้วย ดังนั้นถ้าเริ่มใช้ก่อนตั้งแต่ตอนนี้ก็จะยิ่งได้เปรียบกว่าทีเดียว
Google Trader มีทีมตรวจสอบสินค้าโดยเฉพาะ หากสินค้าใดไม่ผ่านเกณฑ์ตามข้อกำหนดก็จะได้รับการแจ้งให้แก้ไข หรืออาจถูกลบออกโดยระบบ ผู้ซื้อเองจึงมั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่าข้อมูลที่อยู่ใน Google Trader มีความน่าเชื่อถือสามารถไว้วางใจได้ด้วย
โครงสร้างภายในของ Google Trader แบ่งหมวดสินค้าในการลงประกาศออกเป็น 15 หมวดด้วยกัน
1. เกษตรกรรม : อุปกรณ์การเกษตร ปุ๋ย เมล็ด ต้นกล้า ปศุสัตว์ ผลิตภัณฑ์ฟาร์มขายส่ง
2. ข้าวของเครื่องใช้ : หม้อหุงข้าว ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ไมโครเวฟ หม้อต้มน้ำร้อน
3. ความงาม : ผลิตภัณฑ์ความงาม เครื่องสำอาง วิตามินบำรุงความงาม
4. หนังสือ & สื่อ : หนังสือ, CD, DVD, เกมคอมพิวเตอร์
5. รถยนต์ & พาหนะอื่นๆ : รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถบรรทุกและยานพาหนะอื่นๆ
6. เสื้อผ้า & แฟชั่น : เสื้อผ้าผู้หญิง เสื้อผ้าผู้ชาย รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ
7. คอมพิวเตอร์ : คอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป เครื่องพิมพ์ แผ่นดิสก์ ซีพียู อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์อื่นๆ
8. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ : กล้องถ่ายรูป วิดีโอเกมคอนโซล เครื่องเล่นเพลง MP3 เครื่องเล่นดีวีดีโฮมเธียเตอร์ เครื่องเสียงและอุปกรณ์ Video ลำโพง หูฟัง
9. เฟอร์นิเจอร์ & ตกแต่งบ้าน : เก้าอี้ โต๊ะ โซฟา ผ้าม่าน
10. ที่พักอาศัย : บ้าน อพาร์ตเมนท์ อาคารสำนักงาน คอนโด ที่ดิน เพื่อขายหรือให้เช่า
11. ตำแหน่งงาน : ตำแหน่งงาน โอกาสการจ้างงาน
12. โทรศัพท์ : โทรศัพท์มือถือ
13. บริการ : แพ็กเกจทัวร์ สปา สอนพิเศษ ทำผม แต่งหน้า รับถ่ายภาพ
14. ต้องการ : รับทำโฆษณา
15. อื่นๆ : ของสะสม, ของขวัญ, สัตว์เลี้ยง, พระเครื่อง
-
รายการสินค้าจะมีอายุต่ออีก 60 วันนับจากวันที่อัพเดตล่าสุด ถ้าหมั่นเข้าไปอัพเดทบ่อยๆ รายการสินค้าชิ้นนั้นๆก็จะขึ้นมาโชว์ใน Google Trader เป็นลำดับแรกๆ นั่นแสดงว่า เราต้องเข้ามาอัพเดทหรือเข้าสู่ระบบมาดูแลสินค้าของตัวเองทุกๆ 60 วัน การกลับมาอัพเดตข้อมูลเพิ่มเติม เช่น มีโปรโมชั่นใหม่ มีการเปลี่ยนราคาหรืออื่นๆ จะทำให้ข้อมูลของเรามีความสดใหม่อยู่เสมอ (รวมไปถึงการติดหน้าแรกๆ ในการค้นหาใน Google Trader อีกด้วย) การเข้ามาหาของที่อยากซื้อแล้วเจอของที่ใช่จริงๆ
-
การลงขายสินค้าหรือบริการใน Google Trader จะค้นหาสินค้าเจอในนี้เท่านั้น แต่ในอนาคตไม่แน่ว่าอาจจะค้นเจอสินค้าของเราผ่านทาง Google Search ได้อีกทาง ทั้งนี้ต้องคอยติดตามกันต่อไป
-
ห้ามลงสินค้าผิดลิขสิทธิ์ไม่ถูกกฏหมาย สินค้าที่มีเนื้อหาที่ลามกหรืออนาจารไม่เหมาะสม สินค้าจากธุรกิจขายตรง สินค้าลอกเลียนแบบ สัตว์ป่าและสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เช่น งาช้าง และสินค้าประเภทอาวุธ
1. ต้องมีบัญชี Gmail ถ้ายังไม่มีเป็นของตัวเองหรือต้องการสมัครใหม่ สามารถเข้าไปได้ที่https://accounts.google.com/SignUp
2. Google Trader นั้นเชื่อมโยงอยู่กับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Google อยู่แล้ว เช่น Google+ ผู้ใช้จึงได้ประโยชน์จากการสร้างโปรไฟล์ (Profile) ของตัวเองเพื่อสื่อสารกับลูกค้าได้ด้วยไปในตัว การส่งข้อความถึงร้านค้าได้โดยตรง และยังสามารถนำเสนอด้านอื่นๆ ของธุรกิจที่อาจจะไม่สามารถแสดงในรายการสินค้าได้ เช่น ประวัติร้านค้า หรือข้อมูลเกี่ยวกับผู้บริหาร เป็นต้น
การเพิ่มสินค้าของตัวเองเข้าไปที่เมนู “โพสต์รายการสินค้า” จากนั้นกรอกข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า ได้แก่ ชื่อสินค้า ราคา เลือกหมวดหมู่สินค้า จังหวัดที่อยู่ ข้อมูลการติดต่อ เช่น ชื่อ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล รายละเอียดสินค้า รูปภาพ เมื่อใส่ข้อมูลครบเรียบร้อย เลือก "โพสต์" ได้เลย หลังจากนั้นสามารถดูสินค้าตัวเองที่ได้ทำการโพสต์ไปได้ที่เมนู “รายการสินค้าของฉัน” ก็จะเห็นสินค้าที่เราได้ทำการโพสต์ลงไปทั้งหมด ซึ่งสามารถแก้ไขและลบทิ้งได้ตลอดเวลา
• • •
Google Trader นอกจากเป็นบริการที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ แล้วยังเป็นการเปิดช่องทางการขายสินค้าของเรา การเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นย่อมก่อให้เกิดผลดีกับธุรกิจ แต่สิ่งสำคัญในการใช้งานคือเราต้องมีความซื่อสัตย์กับลูกค้าออนไลน์ดังเช่นที่เราได้กระทำกับลูกค้าออฟไลน์ (หรือลูกค้าที่มาถึงหน้าร้าน) ระบุตัวตนและแสดงความจริงใจในการขายสินค้า เพียงเท่านี้ธุรกิจก็ Go Online ได้ง่ายๆ หากได้ลองไปใช้งานกันแล้วมีความเห็นว่าอย่างไร กลับมาคุยกันได้นะคะ :)
ที่มา: http://incquity.com/articles/tech/google-trader-introduction
ทีมงาน MWE : pair admin 1/07/2556
|